ภาพยนตร์แห่งความภูมิใจ เรื่อง "เมื่ออัจฉริยะสร้างได้ อัจฉริยะต้องสร้างชาติ"

ชมรมศิลปะมหาวชิราวุธ ตั้งใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อฉายในพิธีเปิดค่ายอัจฉริยะสร้างชาติ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2553 โดยมุ่งหวังที่เชิญชวนเยาวชนไทนช่วยกันเปลี่ยนประเทศไทย ด้วยการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดี คนเก่ง เป็นอัจฉริยะ แล้วนำความสามารถที่ตนมีนั้นไปช่วยกันสร้างชาติไทยให้รุ่งเรือง

ส่วนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้สื่อสร้างสรรค์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราชมรมคิดและทำแต่สิ่งที่ดี ได้แก่
1. ภาพยนตร์โฆษณา ชุด ขอโทษประเทศไทย
2. รายการ The Idol คนบันดาลใจ  ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ ทางช่อง 9 เวลา 23.30 น.
3. รายการคนค้นฅน  ออกอากาศทุกวันอังคาร ทางช่อง 9 เวลา 22.00 น.
4. มิวสิควิดีโอเพลง ขวานไทยใจหนึ่งเดียว และ บ้านเราจะเหมือนเดิม
5. หนังสือ "อัจฉริยะสร้างได้" โดย คุณหนูดี วนิษา เรซ
ต้องขอขอบคุณฅนเบื้องหลังของสื่อดีๆ เหล่านี้อย่างจริงใจครับ





ขอบคุณท่านที่กรุณาชมจนจบนะครับ

ถ่ายทอดภาพจริง วันแห่งความสูญเสีย และ วันแห่งความสามัคคี

ช่วงค่ำของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 สิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นกับโรงเรียนของเราได้บังเกิดขึ้น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่สิ่งที่ไม่เคยประสบพบเจอคือ วาตภัยอันรุนแรงได้ทำลายหลายสิ่งหลายอย่างของพวกเราไป ภาพเหตุการณ์จริงในคืนนั้นได้ถูกถ่ายไว้โดยครูอุ๋ย รุนแรงแค่ไหนคลิกชมได้เลยครับ




แต่ 2 วันให้หลัง 4 พฤศจิกายน ครูอุ๋ยได้ตะลึงอีกครั้งเมื่อสุดยอดชาวน้ำเงิน-ขาว ทั้งผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และบุคลากรของโรงเรียนได้ร่วมแรงแสดงพลังสามัคคี ช่วยกันทำความสะอาด ฟื้นฟูโรงเรียนของเรา ภาพแห่งความเสียหายนั้นได้นำมาซึ่งภาพแห่งความประทับใจ จะสุดยอดแค่ไหนคลิกชมด้านล่างครับ




บอกจากใจเลยครับว่า แผ่นดินมหาวชิราวุธแห่งนี้ ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยลูกน้ำเงิน-ขาวที่เลือดเข้มข้น คราวใดที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่เคยแล้วซึ่งน้ำใจ ภาพยนตร์สั้นที่ได้ชมน่าจะเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี ว่า "มหาวชิราวุธยังคงรุ่งเรือง"

รักโรงเรียน ช่วยกันทำดีเพื่อโรงเรียนนะครับ

ปิดเทอม เปิดใจ สร้างสุขจาก...การให้

"การให้คือ ความสุขที่ยิ่งใหญ่" ความสุขที่เราได้รับกันตลอดมา วันนี้ถือโอกาสดีในช่วงปิดเทอม ชักชวนกันสร้างบุญ วันที่ 22 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา ชมรมศิลปะมหาวชิราวุธได้จัดให้มีการทำบุญขึ้นโดยการร่วมกันทำบุญ ณ วัดมัชฌิมาวาส  จังหวัดสงขลา และการมอบสิ่งของ รวมไปถึงการมอบรอยยิ้มแด่น้องๆ บ้านเด็กสงขลา โดยยอดเงินในการทำบุญทั้งหมด มาจากการร่วมกันสมทบทุนของสมาชิกชมรม ที่พวกเราเต็มใจในการร่วมกันสร้างบุญในครั้งนี้  ว่าแล้วก็เดินทางไปกันเลย...





ภาระกิจ "ปิดเทอม เปิดใจ สร้างสุขจาก...การให้" ของพวกเรา เริ่มต้นตั้งแต่เช้า ยกพลกันไปทำบุญ  เราช่วยกันเลือกซื้อสังฆทาน  เดินเท้ามุ่งสู่วัดมัชฌิมาวาส  จังหวัดสงขลา บรรยากาศโดยรอบมีความสงบ ร่มรื่น เราไม่รอช้าร่วมกันถวายสังฆทาน ร่วมกันทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลผลบุญ ทำเอาพวกเราต่างอิ่มบุญกันไปถ้วนหน้า ภารกิจลุล่วงไปหนึ่งประการ
เมื่อแดดยามเที่ยงเริ่มสาดส่อง ท้องก็เริ่มหิว  พักทานอาหารเที่ยงกัน อย่างเฮฮา

เมื่อท้องอิ่มก็เดินทางกันต่อ เราช่วยกันเลือกซื้อสิ่งของและขนมเพื่อนำไปมอบให้น้องๆ บ้านเด็กสงขลา คนนึงเลือกของอีกคนนึงจิ้มคำนวณให้ยอดรวมเป็นไปตามเป้าที่ได้ตั้งไว้  เพียงแค่การซื้อของก็ทำเอาเราสนุก  บรรยากาศตอนเจอน้องต้องสนุกมากๆ  แน่ๆเลย  และเราก็ได้ของตามที่ต้องการ

รถสองแถวนำทางที่นำเรามุ่งสู่บ้านเด็กสงขลา มันคงเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดสำหรับผู้โดยสารคนอื่นภายในรถ นักเรียนเสื้อเขียวร่วม 14 คน นั่งร้องนั่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันไปตามๆ กัน

เผลอแปบเดียว รถก็จอดตรงหน้าสถานที่ที่เรารอคอย เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นกับครั้งแรกในชีวิตสำหรับการรร่วมกันทำกิจกรรมกับน้องๆ ผู้ด้อยโอกาส ย่างเท้าก้าวเข้าไป เราไปพบกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ในการมอบของที่เตรียมมาแต่ก็ต้องรอเวลาให้น้องตื่นและทานอาหารว่าง ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่พวกเราได้พักผ่อนจากการเดินทาง

ทุกคนรอคอยเวลาที่ได้เจอกันน้องๆ เวลานั้นมาถึง ทั้งน้องๆและพี่ๆตื่นเต้นมาก  เราทำกิจกรรมกับน้องๆ เวลาสนุกมาถึง ทั้งร้องทั้งเต้นร่วมกัน เราสนุกกันมาก น้องเป็นเด็กที่น่ารัก สดใส สร้างความประทับใจพี่ๆที่ไปมาก เราเล่นกันจวบจนเวลาท้ายสุดก่อนที่ร่วมกันเก็บภาพร่วมกันระหว่างพี่และน้องๆ บ้านเด็กสงขลา



คำบอกเล่าของเหล่าสมาชิกในการร่วมเดินทางในครั้งนี้
















ลูกตังค์ (สมาชิกชมรมฯ) : "สำหรับลูกตังค์ ลูกตังค์ดีใจมากๆเลย เพราะว่า การที่เราได้ไปทำบุญด้วยกันถือเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆเลย กิจกรรมที่ชอบก็คือ ตอนไปถวยสังฆทาน  พระท่านสวดมนต์เต็มบท ด้วยความอิ่มเอิบทำเอาลืมปวดเมื่อยขากันไปเลย จะว่าไปเวลาพระท่านสวดมนต์คล้ายๆ แร็พโย่ มันไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่ใครๆคิด ยังไงก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันทำบุญกันเยอะๆนะครับ"

 















นุกนิก (ประธานชมรมฯ)  : เล่นกับน้อง สนุกมากๆคะ เวลาเล่นกันน้องก็จะมาแกะตามแขนตามขา ดึงไปดึงมา รู้สึกดีมากคะ ถึงเราจะไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมาก แต่ก็สามารถแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับน้องที่ด้อยโอกาส  ได้เล่น ได้เอาของ ขนมไปให้ เท่านี้เราก็ขยายต่อให้คนในสังคมมีความสุขได้คะ อีกสิ่งที่ประทับใจ ตอนเดินทางกลับคะ เราตกลงกันว่าจะโบกรถกลับเพื่อประหยัดเงินค่าโดยสาร มันกลับวิเศษณ์ไปกว่านั้น ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี จากร้านจันทร์สิน ที่แบ่งปันน้ำใจรับอาสาไปส่งพวกเราถึงโรงเรียนกันเลยทีเดียว คนไทยไม่ไร้น้ำใจจริงๆคะ"

 

















วันนี้พวกเรามีความสุขและสนุกมาก เราศรัทธาในการทำความดี ขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันทำดี ทำตามกำลังและความสามารถที่เรามี ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่มหาศาลขอแค่เรามีใจใฝ่ในการรักดี ทำความดี
แล้วทุกอย่างต้องออกมาดี ช่วยเหลือกันไว้ เราคนไทยด้วยกันต้องช่วยเหลือกัน  สิ้นสุดสำหรับวันนี้ แต่วันแห่งการแบ่งปันน้ำใจของพวกเรายังไม่สิ้นสุด ร่วมติดตามภารกิจการนำความเป็นอัจฉริยะมาสร้างชาติของพวกเราได้ใหม่ในครั้งต่อไป  แล้วพบกันใหม่นะ.....  (ยินดีที่ได้แบ่งปัน)

จัดค่ายอัจฉริยะสร้างชาติ ครั้งแรกในโลก

เมื่อวันที่ 15 - 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ชมรมศิลปะมหาวชิราวุธได้บันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลก ด้วยการจัดค่ายอัจฉริยะสร้างชาติ ค่ายที่มุ่งจุดประกายอัจฉริยะ  ในทุกด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญาของศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นคนดีและคนเก่ง ที่จะต้องนำความสามารถที่ตนมีมาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ โดยมีจุดหมายปลายทางที่จะสร้างสรรค์ชาติไทยให้เป็นอารยประเทศ

"เมื่ออัจฉริยะสร้างได้ อัจฉริยะต้องสร้างชาติ" นี่คือสิ่งสำคัญที่พวกเราพยายามบอกต่อให้น้องประถมชาวค่าย จาก 5 โรงเรียน ซึ่งได้แก่ โรงเรียนจุลสมัย หวังดี อนุบาลสงขลา วิเชียรชม และสาธิต ม.ราชภัฏสงขลา รวม 60 ชีวิต

ตลอด 4 วัน 3 คืน เต็มไปด้วยกิจกรรมพัฒนาอัจฉริยภาพ ที่สนุกและได้สาระด้วย ถ้าไม่เชื่อก็ลองชมภาพค่าย ที่นี่

ผลการประชันอัจฉริยะในทุกด้าน ปรากฎว่าน้องๆ 3 ทีม ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมเหรียญทอง อันดับ 1 ได้แก่

ทีมพลังสร้างชาติ จากโรงเรียนจุลสมัย

ทีมหนูน้อยอัจฉริยะ จากโรงเรียนอนุบาลสงขลา

และทีม Perfect Boy Girl จากโรงเรียนหวังดี

สรุปเหรียญทั้งหมดดูที่นี่จ้า

ความสุข สนุก และอบอุ่นแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน แล้วพบกันใหม่ในค่ายครั้งหน้า

 บ๊าย บาย